ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand : SET)
เป็นศูนย์กลางสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน เป็นผู้ให้บริการระบบการซื้อขาย หลักทรัพย์ ธุรกิจเกี่ยวกับการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (clearing house) รับฝากหลักทรัพย์ (securities depository) นายทะเบียน (registrar) และกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องรวมทั้งธุรกิจอื่นๆที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อนุมัติ
เป็นศูนย์กลางสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน เป็นผู้ให้บริการระบบการซื้อขาย หลักทรัพย์ ธุรกิจเกี่ยวกับการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (clearing house) รับฝากหลักทรัพย์ (securities depository) นายทะเบียน (registrar) และกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องรวมทั้งธุรกิจอื่นๆที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อนุมัติ
ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (Market for Alternative Investment : MAI)
เป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งที่สองของประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2542 และเปิดทำการซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2544 มีจุดประสงค์การทำงานโดยทั่วไป
เหมือนกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คือ ทำหน้าที่เป็นตลาดทุน
เพื่อให้กิจการต่างๆ สามารถระดมเงินทุนเพิ่มเติมจากสาธารณะได้ แต่ตลาดใหม่นี้
จะเน้นไปที่กิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี - SME) และกิจการเกี่ยวกับนวัตกรรม
โดยได้ผ่อนผันหลักเกณฑ์ต่างๆ ลง เช่น ทุนชำระแล้วขั้นต่ำของหลักทรัพย์ในตลาดหลัก
คือ 200 ล้านบาท ในขณะที่ขั้นต่ำของตลาดใหม่
ลดลงเป็น 40 ล้านบาท เป็นต้น
เพื่อเปิดโอกาสให้กิจการขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้
ได้มีหนทางในการระดมทุน รวมทั้งสนับสนุนอุตสาหกรรมการร่วมลงทุน (venture
capital) เพื่อเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
บริษัทตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน)(Thailand Futures
Exchange : TFEX)
เป็นบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เพื่อดำเนินการเป็นศูนย์ซื้อ-ขาย สัญญาชื้อขายล่วงหน้า
ตามพระราชบัญญัติสัญญาชื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2546 โดยเริ่มซื้อขายวันที่ 28 เมษายน 2549 เป็นวันแรก
สินค้าที่ซื้อขายใน Tfex ตามพรบ.สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2546 สินค้าที่สามารถซื้อขายใน บมจ.ตลาดอนุพันธ์ ได้คือ
1. ฟิวเจอร์ (Futures)
2. ออปชั่น (Option)
3. ออปชั่นบนสัญญาฟิวเจอร์ ( Options on Futures)
ของสินทรัพย์อ้างอิงประเภทต่างๆ ได้แก่
- อ้างอิงกับตราสารทุน ได้แก่ ดัชนีราคาหลักทรัพย์ หลักทรัพย์
- อ้างอิงตราสารหนี้ ได้แก่ พันธบัตร อัตราดอกเบี้ย
- อ้างอิงกับราคา หรือราคาอื่นๆ ได้แก่ ทองคำ น้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า คือการตกลงราคาซื้อขายกัน โดยจะมีวันกำหนดอายุ เช่นSet50Futures หรือ Tfex จะแบ่งเป็น 4 ช่วงอายุใน 1 ปี ช่วงหนึ่งจะมีอายุ 3 เดือน อย่างเช่นตอนนี้ จะใช้สัญญาที่ซื้อขายกันจะหมดอายุ เดือนมิถุนายน ชื่อสัญญา S50M10
สินค้าตัวแรกของ TFEX คือ SET50 หรือ เรียกว่า Set 50 Index Futures
จุดเด่นของ Tfex คือ สามารถขายก่อนซื้อ หรือ สามารซื้อก่อนขายได้ทั้งคู่ และเป็นการลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนหรือความเสี่ยงจะสูงมาก
สินค้าที่ซื้อขายใน Tfex ตามพรบ.สัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2546 สินค้าที่สามารถซื้อขายใน บมจ.ตลาดอนุพันธ์ ได้คือ
1. ฟิวเจอร์ (Futures)
2. ออปชั่น (Option)
3. ออปชั่นบนสัญญาฟิวเจอร์ ( Options on Futures)
ของสินทรัพย์อ้างอิงประเภทต่างๆ ได้แก่
- อ้างอิงกับตราสารทุน ได้แก่ ดัชนีราคาหลักทรัพย์ หลักทรัพย์
- อ้างอิงตราสารหนี้ ได้แก่ พันธบัตร อัตราดอกเบี้ย
- อ้างอิงกับราคา หรือราคาอื่นๆ ได้แก่ ทองคำ น้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า คือการตกลงราคาซื้อขายกัน โดยจะมีวันกำหนดอายุ เช่นSet50Futures หรือ Tfex จะแบ่งเป็น 4 ช่วงอายุใน 1 ปี ช่วงหนึ่งจะมีอายุ 3 เดือน อย่างเช่นตอนนี้ จะใช้สัญญาที่ซื้อขายกันจะหมดอายุ เดือนมิถุนายน ชื่อสัญญา S50M10
สินค้าตัวแรกของ TFEX คือ SET50 หรือ เรียกว่า Set 50 Index Futures
จุดเด่นของ Tfex คือ สามารถขายก่อนซื้อ หรือ สามารซื้อก่อนขายได้ทั้งคู่ และเป็นการลงทุนน้อยแต่ผลตอบแทนหรือความเสี่ยงจะสูงมาก
ตลาดตราสารหนี้
(Bond Electronic Exchange : BEX)
จัดตั้งขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
และเปิดให้บริการการซื้อขายแก่นักลงทุนทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2546 โดยให้บริการผ่านระบบการซื้อขายแบบเรียลไทม์
เพื่อที่จะพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านปริมาณการซื้อขาย
คุณภาพของตราสารหนี้ ตัวกลางการซื้อขาย และแหล่งข้อมูลอ้างอิง
โดยมีเป้าหมายในการดำเนินการตลาดรองตราสารหนี้ที่สมบูรณ์แบบของประเทศไทย
ให้บริการครอบคลุมผู้ลงทุนและผู้ค้าตราสารหนี้ทั้งหมด
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(Altering Risk to Opportunity : AFET)
เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย Futuresที่อ้างอิงมูลค่าจากราคาสินค้าเกษตรประเภทต่างๆ ได้แก่ ยางพารา ข้าว
และมันสำปะหลัง ซึ่งนอกจากนักลงทุนจะเข้ามาแสวงหาผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าแล้ว
การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้านสินค้าเกษตรในตลาด AFET ยังเป็นเพียงช่องทางเดียวที่นักลงทุนในประเทศจะสามารถลงทุนในสินทรัพย์ Commodities ได้ โดยไม่ต้องทำธุรกิจค้าขายในสินค้านั้นๆ
ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจค้าขายสินค้าเกษตรก็สามารถเข้ามาใช้ Futures เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินค้านั้นๆ
ได้อีกด้วย